ที่ผ่านมาเรารู้ดีว่า Chrome เป็นเบราว์เซอร์ที่กินไฟเอามากๆ เพื่อแลกกับการทำงานที่รวดเร็วของมัน แต่ Google ก็พัฒนาเทคนิคต่างๆ เพื่อทำให้โครมกินแบตน้อยลงมาโดยตลอด ซึ่งเทคนิคใหม่ใน Chrome 57 ที่เพิ่งเปิดให้อัปเดทกันไปก็คือการจำกัดการทำงานของแท็บที่อยู่เบื้องหลังมากกว่าเดิมครับ เทคนิคการประหยัดพลังงานของ Chrome 57 คือเมื่อเราสลับหน้าเว็บไปใช้แท็บอื่น หน้าเว็บเดิมจะกลายเป็นแท็บเบื้องหลัง (Background Tab) ที่มีเวลาทำงานอีก 10 วินาที หลังจากนั้นหน้าเว็บนั้นจะเข้าสู่โหมดพิเศษที่จำกัดการประมวลผล โดยให้โควต้าเวลาประมวลผลของ CPU เป็นวินาที ถ้าใช้เวลาจนหมด ก็ต้องรอเติมโควต้าใหม่ในอัตรารอ 1 วินาที ได้เวลาประมวลผล 0.1 วินาที แต่การจำกัดโควต้าการประมวลของโครมนี้ จะยกเว้นแท็บที่ยังทำงานอย่าง เปิดหนัง เปิดเพลง หรือเชื่อมต่อแบบ Real-time ผ่าน WebRTC หรือ WebSocket ที่โครมจะยังถือว่าแท็บนั้นกำลังทำงานอยู่ ทีมงานของ chrome บอกว่าการปรับรูปแบบการทำงานของแท็บเบื้องหลังนี้ ทำให้ทำงานเบื้องหลังน้อยลง 25% ประหยัดแบตมากขึ้น…
Chrome บนระบบ iOS รองรับฟีเจอร์ Read Later สำหรับดูหน้าเว็บไซต์แบบ ออฟไลน์
นาทีนี้ Google ขออัพเดท แอพพลิเคชั่นที่ตนเป็นผู้พัฒนาให้เจ๋งยิ่งขึ้นสักเล็กน้อย เพราะล่าสุด Google ปล่อยฟีเจอร์ Read Later บนแอพพลิเคชั่น Chrome (ระบบปฏิบัติการ iOS) ออกมาให้ใช้แล้ว ฟีเจอร์ Read Later บนแอพพลิเคชั่น Chrome นี้ มีความสามารถที่คล้ายคลึงกับ Reading List ของแอพพลิเคชั่นติด iOS อย่าง Safari นั่นเพราะ มันจะช่วยให้คุณดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์ที่คุณเปิดอยู่มาเก็บไว้ เพื่อนำกลับมาอ่านอีกครั้งในรูปแบบออฟไลน์ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ฟีเจอร์ Read Later ของ Chrome กับ Reading List ของ Safari ก็ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่ นั่นคือ Read Later ของ Chrome จะทำการบันทึกหน้าเว็บไซต์ทั้งหน้า แทนการบันทึกเป็นเวอร์ชั่นข้อความแบบปลั๊กอิน และ ไม่สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์มได้ อย่างไรก็ตาม เหล่าสาวก Android ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว…
บล็อกป๊อปอัพใน Google Chrome ไม่ง้อแอพฯ เสริม (บน Android และ iOS)
ก่อนหน้านี้ทางทีมงาน Thaiware เขียนทิปส์แนะนำ วิธีบล็อกโฆษณา หรือป๊อปอัพใน Google Chrome ไม่ง้อปลั๊กอิน (บน PC) ให้คุณได้ทราบกันไปแล้ว และครั้งนี้ เราจะมาแนะนำ บล็อกป๊อปอัพใน Google Chrome ไม่ง้อแอพฯ เสริมบน Android และ iOS ให้คุณได้นำไปใช้กัน อย่างง่ายๆ บล็อกป๊อปอัพใน Google Chrome ไม่ง้อแอพฯ เสริม (บน Android) 1. เข้าแอพพลิเคชั่น Google Chrome เลือก เมนูจุด 3 จุด (มุมบนขวา) > การตั้งค่า 2. ภายใต้เมนู การตั้งค่า ให้เลือก การตั้งค่าไซต์ 3. เลือกเมนู ป๊อปอัพ 4. เลื่อนที่เมนู ป๊อปอัพ จนขึ้นว่า อนุญาตแล้ว…
Google ทำให้ Chrome บน iOS กลายเป็นแอพฯ แบบ Open Source แล้ว
หลายคนคงรู้จักเบราว์เซอร์ Chrome กันดีอยู่แล้ว แต่หากพูดถึง Chromium บางคนอาจจะยังไม่รู้จักว่ามันคืออะไร? Chrome นั้นพัฒนาโดย Google ส่วน Chromium นั้น คือ โครงการ ที่ทาง Google ได้เปิดให้นักพัฒนาได้นำ Chrome ไปพัฒนาต่อได้ในรูปแบบ Open source Chromium มีให้ดาวน์โหลดไปใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์มานานแล้ว ซึ่งในปี 2015 โครงการ Chromium ก็ได้ขยายตัวไปยังแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ Android ด้วย และในที่สุดทาง Google ก็ได้ประกาศเปิดตัว Chromium สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่ง Google ได้ระบุรายละเอียดสาเหตุของการที่ Chromium บน iOS มีความล่าช้าเอาไว้ด้วย โดยเหตุผล คือ ข้อจำกัดของการพัฒนาเบราว์เซอร์ที่ต้องทำงานร่วมกับเอ็นจิ้น Apple WebKit ให้ได้ โดยไม่ขัดแย้งกันเองกับตัวเอ็นจิ้น Google…
Chrome เวอร์ชั่นล่าสุด จะแจ้งเตือนหากร้านค้าออนไลน์ที่เรากำลังสั่งจ่ายเงินไม่มีความปลอดภัย
ในปัจจุบันนี้การช้อปปิ้งออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ก็มีเรื่องน่าเป็นห่วงตรงที่ เวลาเราต้องชำระเงินค่าสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่มักจะต้องชำระผ่าน Paypal หรือไม่ก็บัตรเครดิต เว็บร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่จึงจะมีการเข้ารหัสระบบรักษาความปลอดภัยเอาไว้ (HTTPS) เพื่อยืนยันว่าเว็บที่กำลังใช้งานอยู่เป็นเว็บของจริง และมีการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งานอยู่ ไม่ใช่เว็บปลอมที่ทางแฮกเกอร์สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกโจรกรรมข้อมูล ภาพตัวอย่างเว็บที่ถูกเข้ารหัส HTTPS แต่หลายๆ ครั้ง เราอาจจะลืมหรือไม่ทันสังเกต ไม่ได้ตรวจสอบ HTTPS ก่อนจ่ายเงิน ทำให้เรามีความสุ่มเสี่ยงที่จะโดนล้วงข้อมูลธุรกรรมทางการเงินไปได้ ล่าสุด Google ได้พยายามแก้ปัญหานี้ผ่านเบราว์เซอร์ Chrome เวอร์ชั่นล่าสุด ด้วยการเพิ่มระบบแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อเราพยายามจะใส่รหัสผ่านหรือเครดิตการ์ดผ่านหน้าเว็บที่ไม่มีการเข้ารหัส HTTPS ว่า “ไม่รับรองความปลอดภัย” ความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ น่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าพอสมควร สำหรับเจ้าของร้านค้าออนไลน์ที่ยังไม่ได้ใช้งาน HTTPS บนหน้าเว็บของตนเอง ที่มา : www.engadget.com , chromereleases.googleblog.com ที่มา : http://news.thaiware.com/9485.html
เบราว์เซอร์ Chrome เวอร์ชั่นล่าสุด เริ่มปิดกั้นการทำงานของ Flash แล้ว
ความนิยมในการใช้งาน Flash ในปัจจุบันเริ่มถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านความปลอดภัย หรือการใช้ทรัพยากรในการทำงานที่สูงเกินความจำเป็น ซึ่งในปัจจุบัน HTML5 ก็เข้ามามีบทบาทแทนที่ Flash ได้หมดแล้ว เว็บดังๆ หลายเว็บก็เลิกใช้งาน Flash มานานละ ล่าสุด Google ได้ปล่อย Chrome เวอร์ชั่นใหม่ออกมา ซึ่งเวอร์ชั่นนี้ได้เริ่มปิดกั้นการทำงานของ Flash แล้ว ใน Chrome เวอร์ชั่น 55 ที่เพิ่งปล่อยออกมา จะถูกตั้งค่าให้เลือกใช้ HTML5 เป็นค่ามาตรฐาน ยกเว้นเว็บเก่าๆ ที่ยังใช้งานได้แค่ Flash เท่านั้น ถึงจะมีตัวเลือกแสดงขึ้นมาแจ้งเตือนผู้ใช้ ให้การเปิดใช้งาน Flash บน Chrome เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ไม่ประสบปัญหาในการท่องเว็บไซต์เดิมๆ Google ได้ระบุว่าความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะช่วยลดอาการเครื่องค้างจากการทำงานของแฟลชที่หนักเกินไป และลดอาการ Crash อีกด้วย ใครที่ต้องการใช้งานสามารถเข้าไปอัพเดทโปรแกรมได้เลยครับ ที่มา : http://news.thaiware.com/8378.html
พบช่องโหว่ในเว็บบราวเซอร์ Chrome สามารถใช้โจรกรรมหนังและเพลงลิขสิทธิ์อย่างง่ายดาย
ในยุคที่มีเดียต่างๆ นิยมชมผ่านสื่ออินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือภาพยนตร์ ผู้บริโภคเริ่มเลือกที่จะอยู่บ้านแล้วใช้บริการสตรีมมิ่งที่มีให้เลือกมากมาย แต่สิ่งที่ตามมาอย่างเลี่ยงไมไ่ด้ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ การละเมิดลิขสิทธิ์สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือภาพยนตร์ ทำให้ผู้ผลิตสื่อเหล่านี้ต่างงัดมาตรการขึ้นมาป้องกัน แต่ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเปิดเผยว่า ค้นพบช่องโหว่บนเว็บบราวเซอร์ชื่อดังอย่าง Chrome รวมถึง Chromium ด้วย ที่จะทำให้สามารถบันทึกวิดีโอที่เล่นผ่านบราวเซอร์ บันทึกเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ เทคนิคที่ส่วนใหญ่ใช้กัน คือ Google Widevine ที่จะทำการเข้ารหัสตัวไฟล์ไว้ เมือ่จะเล่นไฟล์จะมีการเรียกขอตรวจสอบลิขสิทธิ์ในการเปิดไฟล์ก่อนเล่นผ่านบราวเซอร์ ลองดูหลักการทำงานจากภาพคร่าวๆ ด้านล่างนี้ครับ Method 1: Callback Authentication Method 2: Upfront Token Authentication ช่องโหว่ที่ผู้เชี่ยวชาญพบก็คือ เจ้า Google Widevine นี้ทำการเช็คลิขสิทธิ์ในการเปิดให้ก็จริง แต่ไม่ได้มีขั้นตอนตรวจสอบว่าไฟล์นั้นถูกเล่นบนบราวเซอร์เท่านั้นหรือไม่ ทำให้สามารถใช้ช่องโหว่นี้ในการดักไฟล์วิดีโอดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญไม่มีแผนจะเปิดเผยช่องโหว่ดังกล่าวนี้ออกสู่สาธารณะ จนกว่าช่องว่างกังกล่าวจะถูกปิดลงเสียก่อน ซึ่งานนี้ Google น่าจะต้องรีบแก้ไขโดยด่วน หากยังต้องการให้บรรดาอุตสาหกรรมสื่อไว้ใจเลือกใช้งานต่อไปอยู่ ที่มา : http://news.thaiware.com/8158.html
adblock-youtube-intro วิธีปิดโฆษณา Youtube ให้อยู่หมัด
ผมเป็นคนนึงที่ว่างชอบเปิด Youtube ท่องเว็บไปเรื่อย ฟังๆไปก็สะดุดกับโฆษณาจนบางทีถี่จนน่ารำคาญ เลยลองหาวิธีจัดการกับเจ้าโฆษณาพวกนี้ลองผิดถูกมาหลายอันมาหยุดอยู่กับเจ้า plugin เสริมของ Browser ชื่อ adblock plus อย่าพึ่งกลัวไป เพียงคุณคลิกๆๆๆ ไม่กี่คลิก มันก็ทำงานได้ละ เริ่มจากเปิด Browser ขั้นมาก่อน ในที่นี้ยกตัวอย่างให้ดู Firefox กับ Chrome ใครไม่มีก็ไปหามาติดตั้งซะนะครับ ติดตั้งบน Firefox : ติดตั้ง AdblockPlus หรือจะ Search google เอาก็ได้ เข้ามาแล้วกด bbbbb จากนั้นกด install bbbbb เสร็จแล้ว !! ไปลองเปิด Youtube ดูได้เลย ติดตั้งบน Chrome : ติดตั้ง AdblockPlus หรือจะ Search google เอาก็ได้ จากนั้นกดปุ่ม…
Adobe ปิด 23 ช่องโหว่ร้ายแรงระดับสูงสุดใน Flash Player: กระทบ Firefox, Chrome, IE และ Edge
Adobe ปิด 23 ช่องโหว่ร้ายแรงระดับสูงสุดใน Flash Player: กระทบ Firefox, Chrome, IE และ Edge Adobe อัปเดต Flash Player เป็นเวอร์ชัน 19 (เวอร์ชันเต็ม 19.0.0.185) ซึ่งนอกจากเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างแล้ว ยังทำการปรับปรุงความปลอดภัยโดยปิดช่องโหว่ที่สามารถใช้โจมตีเพื่อยึดหรือ ควบคุมระบบได้ โดยช่องโหว่เหล่านั้นมีผลกระทบกับทั้ง Internet Explorer (IE), Microsoft Edge, Firefox และ Google Chrome บนทุกแพลตฟอร์มที่รองรับทั้ง Windows, Mac และ Linux ข้อมูลจากเว็บไซต์ Adobe ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับปรุงความปลอดภัยมากนัก (ปัจจุบันผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ เช่น อะโดบี ไมโครซอฟท์ เป็นต้น จะเปิดเผยข้อมูลการปรับปรุงความปลอดภัยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น) เพียงระบุว่าในเวอร์ชันอัปเดตล่าสุดนี้มีการปิดช่องโหว่ร้ายแรงระดับสูงสุด 23 จุด…