สำหรับผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการ PC หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน๊ตบุ๊คมานานก็คงจะทราบกันดีว่าทาง Intel นั้นตั้งแต่อดีตจะมีการปรับปรุงรุ่นผลิตภัณฑ์ของ CPU ทุก ๆ 2 ปีในทฤษฎี Tick-Tock หรือก็คือปี 1 เป็นการปรับลดขนาดทรานซิสเตอร์ลงและเพิ่มจำนวนขึ้น ส่งผลให้มีความเร็วในการประมวลผลเพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม ส่วนปีที่ 2 เป็นการปรับปรุงเทคโนโลยีเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อยึดหลักกฎของมัวร์ (Moores’ Law) เอาไว้นั่นเอง
สำหรับผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการ PC หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน๊ตบุ๊คมานานก็คงจะทราบกันดีว่าทาง Intel นั้นตั้งแต่อดีตจะมีการปรับปรุงรุ่นผลิตภัณฑ์ของ CPU ทุก ๆ 2 ปีในทฤษฎี Tick-Tock หรือก็คือปี 1 เป็นการปรับลดขนาดทรานซิสเตอร์ลงและเพิ่มจำนวนขึ้น ส่งผลให้มีความเร็วในการประมวลผลเพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม ส่วนปีที่ 2 เป็นการปรับปรุงเทคโนโลยีเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อยึดหลักกฎของมัวร์ (Moores’ Law) เอาไว้นั่นเองง
แต่แล้ว ณ ปัจจุบันทาง Intel เองนั้นก็เริ่มเข้าสู่คอขวดในด้านการลดขนาดของตัวทรานซิสเตอร์ลงเรื่อย ๆ ดังเช่นยุคก่อน โดยเฉพาะปัญหาทางด้านการใช้พลังงานและช่องว่างของ Processor ภายในที่น้อยลงเรื่อย ๆ จึงได้ขอปรับเปลี่ยนจากทฤษฎี Tick-Tock กลายมาเป็น Process-Architecture-Optimization หรือ PAO แทน ซึ่งจะช่วยให้เทคโนโลยี CPU ยุคนั้น ๆ อยู่ได้นานขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการดึงศักยภาพของ CPU รุ่นนั้น ๆ ขึ้นมาให้เต็มประสิทธิภาพกว่ายุคก่อน ๆ ที่มีเวลาพัฒนาเพียง 1 ปีเท่านั้น
ซึ่ง ณ ปัจจุบันทาง Intel ถือได้ว่ามีเทคโนโลยี CPU นำห่างคู่แข่งอย่าง Samsung, TSMC และ GlobalFoundries อยู่หลายปี (แปลกใจที่ไม่มี AMD) จึงถือได้ว่าการปรับทฤษฎีเป็นแบบ PAO ในครั้งนี้จะไม่ส่งผลภาคอุตสาหกรรมของทาง Intel มากเท่าไรนัก
งานนี้ใครที่กำลังจะซื้อ CPU Gen6th Skylake ก็พอจะวางใจได้ว่ายังไม่ตกรุ่นเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน
ที่มา: https://www.beartai.com/news/itnews/90129
ที่มา: anandtech
ที่มาของภาพ: softwareinsider | anandtech