ในที่สุด Apple ก็ได้เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่แล้ว ภายในงาน Apple Special Event – Gather Round ที่จัดขึ้นที่ Steve Jobs Theater โดยครั้งนี้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น คือ
- iPhone Xs จอ OLED 5.8 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ $999 (ประมาณ 32,690 บาท)
มีความจุให้เลือก 64GB, 256GB และ 512GB - iPhone Xs Max จอ OLED 6.5 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ $1,099 (ประมาณ 36,000 บาท)
มีความจุให้เลือก 64GB, 256GB และ 512GB - iPhone XR รุ่นประหยัดจอ LCD จอ 6.1 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ $749 (ประมาณ 24,500 บาท)
มีความจุให้เลือก 64GB, 128GB และ 256GB
iPhone Xs เปิดจองในกลุ่มประเทศแรก (ไม่มีประเทศไทย) 14 กันยายน วางจำหน่าย 21 กันยายน ส่วน iPhone XR เปิดจอง 19 ตุลาคม วางจำหน่าย 26 ตุลาคม
ดีไซน์ตามคาด คือ คล้ายกับ iPhone X ไร้ปุ่ม Home และมีขอบจอแหว่งด้านบน โดยการปลดล็อคด้วยใบหน้า Face ID ได้กลายเป็นมาตรฐานหลักแทนที่การสแกนนิ้วที่มีมาตลอดจนถึง iPhone 8 มาพร้อมกับสีใหม่ทองแชมเปญสุดหรู และเพิ่มความจุสูงสุดเป็น 512GB
iPhone Xs มาพร้อมกับหน้าจอ Super Retina OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2,436 x 1,125 พิกเซล ส่วน iPhone Xs Max มาพร้อมกับหน้าจอ Super Retina OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2,688 x 1,242 พิกเซล และมีความเร็วในการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz เหมือนกับ iPad Pro รองรับ HDR, Dolby Vision และ HDR10
ภายในมีการปรับปรุงประสิทธิภาพใช้ชิปประมวลผล Apple A12 Bionic โดยถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในตลาดที่ใช้ชิปที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร ซึ่งทรงพลังเป็นอย่างมาก เร็วกว่าเดิมหลายเท่า และใช้แบตเตอรี่น้อยลง ทำให้ใช้ iPhone ได้นานกว่าเดิม
มีแอพฯใหม่ Homecourt นำระบบ AI เข้ามาใช้ในกล้อง สามารถวิเคราะห์การฝึกซ้อมกีฬาได้แบบเรียลไทม์ ในตัวอย่างที่โชว์ในงานเป็นการวิเคราะห์ทักษะการเล่นบาสเก็ตบอล ที่ดูแล้วน่าทึ่งมากเลยล่ะครับ
ARKit สามารถเล่นเกมส์พร้อมกัน 2 คนได้แล้ว น่าจะมีเกมส์รูปแบบใหม่ๆ ที่สนุกกว่าเดิมออกมาให้สัมผัสกันอย่างแน่นอน
กล้องก็มีการปรับปรุงใหม่ให้มีคุณภาพสูงยิ่งกว่าเดิม มีเลนส์ไวด์เซ็นเซอร์ใหม่ 12MP f1/1.8 และเลนส์เทเล 12MP f/2.4 2x Optical zoom และแฟลช True Tone ใหม่ที่ให้แสงธรรมชาติมากขึ้น
กล้องหน้าความละเอียด 7MP f/2.2 ใช้เซ็นเซอร์ตัวใหม่ที่เคลมว่าทำงานได้เร็วกว่าเดิม
ระบบถ่ายภาพมีการปรับปรุงใหม่ ใช้ AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด เท่าที่ดูตัวอย่างภาพที่โชว์ในงาน จัดว่าแจ่มมากทีเดียว และเบลอขอบทำ DOF ได้เนียนมากขึ้น โบเก้ก็มีการทำวงแสงที่เนียน และสวยงามสุดๆ
การบันทึกวีดีโอ ก็มีการปรับปรุงประสิทธิภาพที่แจ่มกว่าเดิม โดยการวัดแสง การเรนเดอร์สีจะเกลี่ยได้ดีกว่า iPhone รุ่นก่อน และบันทึกเสียงเป็นแบบสเตอริโอได้แล้ว
รองรับการใช้งาน 2 ซิม แล้วด้วยนะ โดยซิมที่สองจะต้องใช้เป็น eSIM ยกเว้นรุ่นที่จำหน่ายในประเทศจีน ที่จะใส่ได้ 2 ซิมเลย
นอกจาก iPhone Xs และ iPhone Xs max แล้วก็ยังมีการเปิดตัว iPhone Xr อีกด้วย โดยเป็นรุ่นที่ใช้จอ Liquid Retina ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล ความละเอียดน้อยกว่ารุ่น Xs แต่ก็ไม่ธรรมดา รองรับอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ด้วย แถมยังใช้ซีพียูตัวล่าสุดอย่าง A12 Bionic
ว่ากันตรงๆ มันคือ iPhone Xs ที่ลดต้นทุนลงด้วยการใช้จอ LCD แทน กล้องหลังมีเลนส์เดียว ตัวเครื่องมีวัสดุที่ไม่ไฮโซเท่า โดยวัสดุน่าจะเหมือนกับ iPhone 8 ข้อดี คือ มีหลายสีให้เลือก
ส่วนใครที่หวังสอยรุ่นเก่าที่ปรับราคาลงก็มีข่าวดีครับ เพราะมีการประกาศปรับราคา iPhone 8 เหลือ $599 (ประมาณ 19,600 บาท) และ iPhone 7 เหลือ $449 (ประมาณ 14,700 บาท) ด้วย
เครดิต https://news.thaiware.com/14518.html