เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการกับ CPU Intel Gen 8 Coffee Lake ที่มาพร้อมประสิทธิภาพที่สูงกว่ารุ่นเก่าเป็นอย่างมาก โดยในครั้งนี้จมารีวิว CPU ระดับกลางของซีรีส์อย่าง Intel Core i5-8400 รุ่นน้องเล็กของตะกูล i5 Gen 8 ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบใหม่ที่มีแกนประมวลผลมากถึง 6 Core 6 Thread มากกว่ารุ่นเก่าที่มีเพียง 4 Core 4 Thread เท่านั้น อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ อีกมายมาย ส่วนประสิทธิภาพจะเป็นอย่างไร ต้องดู !
INTEL i7-8400
- INTEL i5-8400
- Socket LGA1151-v2
- CPU 6 Core / 6 Thread
- Frequency 2.80 GHz
- Turbo 4.00 GHz
- CPU Bus 8 GT/s DMI3
- Architecture 14nm
- Cache L2 6 x 256KB
- Cache L3 9MB
- Power Peak 65W
หน้าตาของ CPU นั้นยังคงมีรูปแบบเดิม ขนาดเหมือนเดิมกับ CPU Socket 1151 รุ่นอื่น ๆ แต่ภายในได้มี DIE แตกต่างออกไปด้วยสถาปัตยกรรม Coffee Lake นั้นจะมีขนาดความกว้างพอ ๆ กับ Kaby Lake แต่ความยาวนั้นจะมีความยาว 151 mm² ซึ่งยาวกว่า Kaby Lake ที่มีขนาด 126 mm² ส่วนด้านหลังมีการจัดเรียงใหม่เนื่องจากสถาปัตยกรรมได้เปลี่ยนไปทำให้ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Socket LGA 1151-v1 เหมือน Sky lake และ Kaby Lake ได้
หน้าตาของ Socket LGA 1151 V2 ที่รองรับ Coffee LAKE โดยเฉพาะ
สเปคที่ใช้ในการทดสอบ
- Intel Core i5-8400
- Ram Corsair Vengeance 16GB DDR4 Bus 3200
- M/B ASUS Prime Z370 A
- SSD Kingston HyperX 480GB M.2
- GPU GTX 980Ti HOF
- PSU Cougar 1200W 80+ Bronze
สเปคจากโปรแกรม CPU-Z กับ i5-8400 จะมีความเร็ว Base Clock 2.8 GHz และ Boost Clock 4.0 GHz ด้วยเทคโนโลยี Turbo Boost 3.0 ทำให้สามารถทำ Boost Clock ได้สูงขึ้นถึง 1.2 GHz ส่วนของ Chache L3 มีขนาดที่มากถึง 9MB การกินไฟอยู่ที่ 65W ในส่วนของ Code Name ยังคงเห็นเป็น Kaby Lake อยู่ เนื่องจากยังเป็นตัวทดลองที่ส่งให้ทางสื่อเทสไม่ใช่เวอร์ชันที่ขายจริง ในส่วนกราฟฟิกนั้นจะเป็น Intel UHD Geaphic 630 รองรับการแสดงผล 4K ได้ดีขึ้น ส่วนของแรมที่ใช้เป็นแบบ Dual Channel 16GB BUS 3200MHz XMP 2.0
สำหรับการ Benchmark CPU Intel Core i5-8400 กับโปรแกรม CPUZ เทียบกับ CPU i7 7700K โดย i5-8400Kมีประสิทธิภาพรวมที่น้อยกว่าเพียง 2% เท่านั้นสำหรับความแรงแบบ Single Thread น้อยกว่าเพียง 2% เช่นกัน เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพที่ไกล้เคียงกันอย่างมาก ประสิทธิโดยรวมแรงกว่า Intel Core i5-7400 รุ่นเก่าถึง 40% เลยทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพ i5-8400 กับโปรแกรม Cinebench R15 โดยสามารถทำคะแนนในการเรนเดอร์ภาพได้คะแนน 965 CB ซึ่งเกือบเทียบเท่ากับ i7-7700K ที่ทำคะแนนได้เพียง 998 CB และประสิทธิภาพยังสูงกว่า Ryzen 5 1400 โดยถ้าจะให้เทียบต้องเทียบกับ Ryzen 5 1500X หรือ Ryzen 5 1600 จึงจะสูสีมากกว่า
การทดสอบ 3D Mark Fire Strike กับ i5-8400 สามารถทำคะแนน Physics ได้ 12231 คะแนน น้อยกว่า i7-7700K อยู่ถึง 3000 คะแนน แต่เมื่อเทียบกับ CPU ระดับเดียวกันอย่าง RYZEN 5 1400 ที่มีราคาถูกกว่าประมาณ 1,000 บาท จะเห็นได้ชัดว่า i5-8400 มีคะแนนที่สูงกว่าถึง 2000 คะแนนเลยทีเดียว
การทดสอบ 3D Mark Time Spy กับ i5-8400 สามารถทำคะแนน CPU Score ได้ 5145 คะแนน น้อยกว่า Ryzen 5 1400 อยู่ถึง 1100 คะแนน ซึ่งการทำงานบน DirectX 12 ในการทดสอบนี้ ถือว่า Intel ยังตอบสนองได้ไม่ดีมากนักเนื่องจากมีจำนวน Core และ Thread ที่น้อยกว่า
สอบการเล่นเกมด้วย CPU i5 8400 และการ์ดจอ GTX 980 Ti ในเกม GTA V บนกราฟฟิกระดับสูงที่สุด ลดรอยหยัก X4 ปรับสุดหมดทุกอย่าง ความละเอียด Full HD โดยสามารถทำเฟรมเรทได้ประมาณ 70-90 FPS กับการทำงานของ CPU ที่ 50%-60% อุณหภูมิของ CPU อยู่ในระดับ ต่ำกว่า 55 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถนำมาเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยมในด้านนี้
ถัดมากับเกม PUBG ซึ่งกินทรัพยากรณ์เครื่องค่อนข้างมากและใช้งาน CPU ค่อนข้างหนัก การทดสอบครั้งแรกใช้กราฟฟิกระดับสูงที่สุดบนความละเอียด Full HD เฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 60-80 FPS อุณหภูมิของ CPU ต่ำกว่า 55 องศาเซลเซียส การทำงานของ CPU โดยรวมอยู่ที่ 40% – 50% โดยการใช้งาน CPU ค่อนข้างเยอะมาก ถ้าหากนำไปสตรีมมิ่งเกมอาจจะทำให้ CPU รับภาระหนักจนเกินไป ซึ่งดูเหมือน i7-8700 จะทำได้ดีกว่า
โโยรวมแล้ว Intel Core i5-8400 คือ CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นเก่าในระดับเดียวกัน วึ่งสามารถเทียบได้กับรุ่นพี่อย่าง i7-7700K ได้อย่างสบาย ๆ ด้วยราคาค่าตัวที่ถูกกว่า และมี 6 Core Thread พร้อม Clock Speed ที่สูงถึง 4.0 GHz ทำให้เป็น CPU ที่เน้นการทำงานด้าน Entertainment ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะการนำไปเล่นเกม ด้วยราคาระดับนี้กันเฟรมเรทในการเล่นเกมที่ทำได้ ถือว่าเป็นที่พึงพอใจกว่าค่ายคู่แข่งเมื่อวันกันด้วยประสิทธิภาพในการเล่นเกมเพียงอย่างเดียว
สรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ ใครที่กำลังมองหา CPU ที่เน้นเล่นเกมหนัก ๆ เพียงอย่างเดียว Intel Core i5-8400 คือตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก ด้วย Core Speed ที่สูงทำให้สามารถรังรับการเล่นเกมในยุคปัจจุบัญได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับประกอบคอมเซ็ตเล่นเกมระดับกลางไปจนถึงระดับสูง จับคู่กับการ์ดจอรุ่นท๊อปได้แบบสบาย ๆ เรียกได้ว่าราคาค่าตัวของ i5-8400 เพียง 6800 บาท สามารถตอบโจทย์ทุกการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าการใช้งานขั้นพื้นฐานต่าง ๆ สามารถทำได้ดีแม่แพ้ CPU รุ่นไหน ๆ
ข้อดี
- ประสิทธิภาพสูงมากจนเกือบเทียบเท่า i7-7700K
- เหมาะสำหรับการเล่นเกมด้วย Core Speed ต่อคอร์ที่สูงมาก
- ราคาในระดับกลางไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้มา
ข้อสังเกต
- เมนบอร์ดยังมีราคาแพง
เครดิต : notebookspec