เมื่อย้อนมองไปที่ประวัติการพัฒนาระบบปฏิบัติการต่างๆ ที่ Google เคยทำมา เราจะพบว่ามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนๆ กัน คือ อยู่บนพื้นฐานของ Linux kernel ไม่ว่าจะเป็น Chrome OS, Android หรือ Chromecast ฮาร์ดแวร์ต่างๆ ของกูเกิลล้วนอยู่บนพื้นฐานของ Linux มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตามการทำงานของ Linux kernel นั้นไม่ได้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อต้องไปทำงานอยู่บนอุปกรณ์เฉพาะทางบางอย่างที่ไม่ได้ต้องการระบบปฏิบัติการมาประมวลผล เช่น หน้าจอแสดงผลการทำงานของรถยนต์, ระบบนำทาง GPS เนื่องจากการประมวลผลของ Linux ใช้พลังงานและความเร็วในการประมวลผลมากเกินความจำเป็นสำหรับงานเหล่านี้
แล้ว Fuchsia สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร?
ในขณะนี้มีการสันนิษฐานหลายอย่าง บางคนคิดว่า Google พัฒนาขึ้นมา เพื่อช่วยรวม Chrome OS และ Android ให้เป็นหนึ่งเดียว ในขณะที่บางคนเชื่อว่า มันจะถูกใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับยุค Internet of Things อาจจะเป็นเราเตอร์, ลำโพง, รถยนต์ หรือระบบนำทาง GPS
หากเราเข้าไปดูโปรเจคส์ Fuchsia บน GitHub เราจะพบข้อความว่า “Pink + Purple == Fuchsia (a new Operating system)” เป็นข้อความที่ดูเลื่อนลอยและไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเราสักเท่าไหร่ เราต้องขุดไปในเอกสารต่างๆ บนหน้าเว็บ เพื่ออ่านรายเอียดลึกๆ ถึงจะพอเห็นภาพวัตถุประสงค์ของโปรเจคส์นี้
ที่พอจะคาดเดาได้ คือ Magenta kernel ที่ทำงานบนพื้นฐานของ LittleKernel เจ้าตัวระบบปฏิบัติการ Fuchsia นี้ก็จะทำงานบนพื้นฐานของ Magenta kernel นี่เอง ทั้งนี้ Magenta นั้นออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับระบบปฏิบัติการแบบฝัง (Embedded OS) รายอื่นอย่างเช่น FreeRTOS หรือ ThreadX
อย่างไรก็ตาม Magenta ได้ออกแบบให้รองรับการทำงานได้ในขนาดงานที่ใหญ่กว่านั้นมาก มันสามารถทำงานได้แม้กระทั่งทั้งบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
แต่ Magenta ก็เป็นแค่ Kernel แล้วการทำงานของระบบปฏิบัติการที่เหลือล่ะ? คาดว่ามันจะทำงานเหมือนกับที่ Google ใช้ Flutter ในการออกแบบ User interface, ใช้ Dart เป็นภาษาหลักในการเขียนโปรแกรม หรือใช้ Vulkan ในการเร่งกราฟฟิค
Magenta รองรับการทำงานทั้งบน ARM CPUs แบบ 32/64 บิต รวมถึงคอมพิวเตอร์แบบ 64 บิต ด้วย หนึ่งในนักพัฒนาของกูเกิล Travis Geiselbrecht ยังยืนยันด้วยว่ามันสามารถทำงานบน Raspberry Pi 3 ได้
สำหรับตอนนี้ Fuchsia เพิ่งจะอยู่ในจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเท่านั้น ยังคงมีเส้นทางอีกยาวไกลในการพัฒนา ถึงตอนนั้นเราก็จะได้รู้อย่างแน่ชัดเองว่าสุดท้ายแล้ว Google พัฒนาเจ้านี่ขึ้นมาเพื่ออะไร
ที่มา : www.androidpolice.com , www.theverge.com
ที่มา : http://news.thaiware.com/8416.html